โควิด-19 กับผลกระทบต่อตลาด PGM (กลุ่มโลหะพวกแพลตตินัมหรือทองคำขาว)💥
POSTED BY ALICE
ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่าเป็นโรคระบาดแล้วขณะนี้โควิด -19 สายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างอันตราย นอกเหนือจากการสูญเสียชีวิตที่น่าเศร้าแล้วมันยังก่อให้เกิดความเสียหายมันยังส่งผลกระทบที่สำคัญต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจของหลายประเทศ ในบทความนี้เราจะพิจารณาถึงผลกระทบที่มีต่อโลหะกลุ่มแพลทินัม - แพลทินัม, แพลเลเดียม, และโรเดียม
ที่ผ่านมา...
เนื่องจากมีการใช้มาตรการมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 และความหวาดกลัวต่อภาวะถดถอยทั่วโลก การจดทะเบียนในตลาดหุ้นทั่วโลกตกลงอย่างรวดเร็วและโลหะมีค่าที่ใช้ในการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมในการเทขายครั้งใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ แพลเลเดียมและแพลตตินั่มไม่ใช่ข้อยกเว้น ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากจีน (จีนเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ในการผลิตท่อแคท) ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงสองเดือนแรกของปี ในวันจันทร์ที่ 16 มีนาคมแพลเลเดียมนักแสดงดาวรุ่งร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ลดลงเหลือ 1,832 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดิ่งลงในวันเดียวที่ 18% และลดลง 36% ในสัปดาห์ก่อนหน้า แพลตตินัมมีอาการดีขึ้นเล็กน้อยโดยลดลงเหลือ 564 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Source: platinum.matthey.com
ในอนาคต...
แม้ว่าจีนจะเริ่มฟื้นตัวจาก COVID-19 แต่ยังคงต้องตระหนักถึงผลกระทบต่อส่วนที่เหลือของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา จะมีการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงไม่น้อยในอุตสาหกรรมรถยนต์และสิ่งนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อความต้องการ PGM อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้จะถูกชดเชยด้วยมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นโดยเฉพาะในจีนและอินเดีย ...
แพลตตินั่ม
ทั้งจีนและอินเดียได้ออกกฎหมายควบคุมมลพิษซึ่งจะนำไปสู่ข้อกำหนดของ PGM ที่เพิ่มขึ้นในเครื่องฟอกไอเสียสำหรับยานยนต์ที่ใช้งานหนัก วิธีนี้จะช่วยชดเชยความสูญเสียจากความต้องการโดยรวมที่ลดลงจากอุตสาหกรรมรถยนต์ได้หากไม่สามารถควบคุม COVID-19 ได้ในปีนี้ นักลงทุนควรระมัดระวังในการคาดการณ์ราคาในช่วงต้นของการวิวัฒนาการของไวรัส แม้ว่า Capital Economics ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอิสระชั้นนำแห่งหนึ่งจะมีการล่มสลายในสัปดาห์นี้ มีความเสี่ยงสูงพร้อมทั้งคาดการณ์ว่าราคาทองคำขาวจะอยู่ที่ประมาณ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีซึ่งต่ำกว่าราคาของโลหะในปี 2019 แต่การฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากราคาซื้อขายปัจจุบัน
แพลเลเดียม
ในปีที่ผ่านมาแพลเลเดียมเป็นดาวเด่นของกลุ่มนี้เนื่องจากมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น รวมกับความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานซึ่งส่งผลให้ราคาในตลาดพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่สูงกว่า 2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามที่เราได้รายงานไปก่อนหน้านี้ สาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของเครื่องฟอกไอเสียเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษใหม่ในประเทศจีนและที่อื่น ๆ รวมทั้งแนวโน้มจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นน้ำมันเบนซิน ในขั้นต้นนักวิเคราะห์มีแนวโน้มที่จะยอมรับว่าปัจจัยเหล่านี้จะยังคงมีอยู่มากกว่าความต้องการรถยนต์ที่ลดลงและราคาจะฟื้นตัว เนื่องจากอุปสงค์ยังคงสูงกว่าอุปทาน แม้ว่าข้อแม้คือหากไม่มี COVID-19 เป็นเวลาหลายเดือน อุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องทนทุกข์ทรมานและการผลิตมีแนวโน้มที่จะลดลงส่งผลให้ราคาของ PGM ทั้งหมดลดลงแม้ว่าจะมีการมาตรฐานที่สูงขึ้นของท่อแคทก็ตาม
อีกประเด็นหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อความต้องการส่งผลต่อราคาสำหรับแพลเลเดียม ตามที่ระบุไว้ในบทความก่อนหน้านี้มีการพูดถึงการเปลี่ยนแพลทินัมเป็นแพลเลเดียมอันเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำของราคาที่กว้างขึ้นโดยนักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่าสิ่งนี้อาจเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2565 หากทว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วทั้งสอง จะเห็นว่าราคาของPGM เกือบจะเห็นการบรรจบกันของราคาตามลำดับ
โรเดียม
ในอดีตมักถูกมองว่าเป็น “ซินเดอเรลล่า” ใน บรรดาของสามสหายอย่าง โลหะตระกูล PGM แร่โรเดียมได้รับความต้องการและราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและในช่วงไม่กี่เดือนนับตั้งแต่ปลายปีที่แล้วราคาของมันเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า นี่เป็นผลมาจากความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้น 15% เนื่องจากมาตรฐานการปล่อยมลพิษใหม่ที่สำคัญในประเทศจีนประกอบกับความพร้อมในการจัดหาที่เพิ่มขึ้นเพียง 10% โรเดียมพบว่าเป็นผลพลอยได้จากการขุดแพลทินัมเท่านั้น ในแง่ของปริมาณเป็นส่วนประกอบที่เล็กกว่าของตลาดโลหะและไม่ได้รับผลกระทบเท่าแพลทินัมและแพลเลเดียม เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดที่ 13,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์แม้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 11,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้วก็ตาม
บทสรุป
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากำลังส่งผลกระทบระยะสั้นต่อราคา PGM ซึ่งสอดคล้องกับโลหะส่วนใหญ่ ในระดับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างมากในโลกว่าด้วยการระบาดของโรคระบาดและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะยืดเยื้อนานไปเท่าไร จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์อนาคตเท่าที่ราคา PGM เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือข้อกฏหมายการปล่อยมลพิษใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้นจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเมื่อวิกฤตไวรัสได้รับการแก้ไขและผลตอบแทนในอุตสาหกรรมยานยนต์คงที่และกลับมาเป็นปกติ ความต้องการ PGM จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันการขาดดุลอุปทานจะดำเนินต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่ามีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการรีไซเคิลท่อแคทเพิ่มความสำคัญของอุตสาหกรรมรีไซเคิลในการจัดหา PGM สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์นั่นเอง
