เกิดอะไรขึ้นถ้ารถยนต์ดีเซลของยุโรปเปรอะเปื้อน? 🚛

POSTED BY ALICE

มีการศึกษาในปัจจุบันถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการปล่อยน้ำมันดีเซลที่เป็นมลพิษของโฟล์คสวาเกนในปี 2015 จึงได้มีการเปิดเผยถึงรถยนต์ดีเซลยุโรปรุ่นล่าสุดที่ได้ทำลายสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก และมีการค้นพบรถยนต์มากกว่า 4,000 รุ่น มีไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) สูงกว่าระดับมาตรฐานที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป

 

โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มโครงการ Real Urban Emissions (TRUE) โดยได้มีการกำหนดวันที่ของรถทั้ง 375,000 คันทั่วทั้งทวีป รวมถึงยังได้แบ่งยานพาหนะทั้งหมดออกเป็นกลุ่มตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษ ยานพาหนะที่อยู่ในระดับดีเซล 3, 4 และ 5 เครื่องหมายจะแสดงออกมาว่า แย่ สำหรับระดับ NOx หมายความว่ายานพาหนะผลิต NOx มากกว่า 180 มิลลิกรัมต่อกิโลเมตร รวมถึงรถจักรยานยนต์เหล่านี้ และรถยนต์มาตรฐานรุ่นเก่า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็จะถูกจัดประเภทภายใต้มาตรฐานยูโร 6 อย่างน่าแปลกใจด้วยเช่นกัน และพวกเขาล้มเหลวในการปล่อยมาตรฐานออกมา โดยมากมาตรฐานยูโร 6 รถยนต์จะได้รับเครื่องหมาย แย่ แบบเดียวกัน และมีเพียงไม่กี่คันที่ได้รับเครื่องหมายแสดงออกมาว่า ปานกลาง ในความเป็นจริงแล้วไม่มีรถยนต์ดีเซลยุโรปที่ได้รับมาตรฐานแสดงออกมามาว่า ดี ตามที่กำหนดไว้เลย

 

การอธิบายข้อขัดแย้ง

ในทางกลับกันของสภาระหว่างประเทศด้านการขนส่งที่ปราศจากมลพิษซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรของอเมริกาที่เป็นแหล่งที่มาของการศึกษานี้  ซึ่งได้แถลงต่อ Financial Times ถึงผลลัพธ์นั้นเป็น การยืนยันที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความกลัวที่เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับรถยนต์ดีเซล ในทางกลับกันสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) อ้างว่าผลลัพธ์นั้น ทำให้เข้าใจผิด พวกเขาอ้างว่าการศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงโมเดลปี 2019 ซึ่งน่าจะเป็นไปตามมาตรฐานยูโร 6d ในอนาคต

 

นาย Erik Jonnaer เลขาธิการ ACEA กล่าวว่า เนื่องจากรถยนต์ทุกคันที่ผ่านการทดสอบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ TRUE Initiative นี้เป็นรถยนต์ pre-Euro 6d ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการปล่อยมลพิษทางอากาศ

Greg Archer จาก NGO การขนส่งและสิ่งแวดล้อมได้ประกาศต่อ The Guardian ว่าเป็นการเผยช่องทางการให้คะแนนดีเซลที่ไม่สะอาดหลายสิบล้านเพื่อสร้างมลพิษทางอากาสบนท้องถนนให้เราได้หายใจทุกวัน มีรูปแบบการปฏิบัติ รวมทั้งหน่วยงานเข้ามาดูแล เพื่อกำหนดให้ดำเนินการให้ผู้ผลิตรถยนต์ช่วยกันรักษาความสะอาดสิ่งเหล่านี้ด้วย

ที่มา:  Popular Mechanics