นอร์เวย์สวรรค์สำหรับเครื่องยนต์ไฟฟ้า
POSTED BY ALICE
สแกนดิเนเวียกลายเป็นผู้นำเทรนด์อย่างรวดเร็วในด้านของการรีไซเคิลขยะ และการผลิตยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างประเทศนอร์เวย์ ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตกอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามยังเป็นผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งไฟฟ้าทางถนนอีกด้วย คณะกรรมการด้านข้อมูลการจราจรบนถนนของประเทศนอร์เวย์ได้ประกาศเมื่อต้นเดือนมกราคม 2018 ว่ามีรถยนต์รุ่นใหม่ที่ได้ขายไปแล้วในปี 2017 มากกว่าครึ่งหนึ่งนั้นเป็นรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า
รัฐบาลนอร์เวย์จึงมีเป้าหมายให้ขายรถยนต์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น โดยจะเริ่มในช่วงต้นปี 2025 เพื่อกำหนดมาตรการทางด้านภาษีให้เป็นประโยชน์สำหรับรถยนต์ที่ไม่ก่อมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้พวกเขายังให้มีการเพิ่มภาษีสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นเชื้อเพลิง
ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดจึงมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งด้านการตลาดคิดเป็น 20.9% ในปี 2017 เมื่อนำมาเปรียบเทียบในส่วนแบ่งด้านการตลาดของรถยนต์ไฮบริดคิดเป็น 15.7% ของในปี 2016 ซึ่งขยับขึ้นมาจาก 24.5% ในปี 2016 มาเป็น 31.3% ในปี 2017
เป็นเรื่องที่ส่งผลดีอย่างมากสำหรับตลาดรถยนต์ที่ไม่ก่อมลพิษ โดยมาตรการด้านภาษีอันที่จริงซึ่งนำมาเป็นส่วนลดสำหรับเรือข้ามฟาก ค่าที่จอดรถ หรือบนทางด่วนเพื่อรองรับรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประชากรมีความต้องการในตัวสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบรถยนต์เกิดความลำบากในการจัดหารถยนต์มาให้ รวมไปถึงมีการรอให้เกิดการขยายตัวครอบคลุมไปทั่วทั้งประเทศอีกด้วย
ดังนั้นประเทศนอร์เวย์จึงพิสูจน์ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่เป็นไปได้ในช่วงเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งยังเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศในโลกที่ยังคงรักความสงบได้ติดตามกันต่อไป
ที่มา: Tarmut
